
ครั้งแรกของโลก! นวัตกรรมสมุนไพรไทยแก้ตะกรันในระบบ Cooling Tower
ครั้งแรกของโลกที่สมุนไพรไทยถูกนำมาใช้แก้ปัญหาตะกรันในระบบทำความเย็นได้สำเร็จ ถือเป็นนวัตกรรมที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยและอาจเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมสีเขียวในอนาคต นวัตกรรมนี้เกิดจากความร่วมมือของเอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง (M Group Holding) และวิสาหกิจชุมชนรำมะสัก จังหวัดอ่างทอง โดยได้นำสารสกัดจากสมุนไพรไทยแท้ 100% เช่น น้ำด่างธรรมชาติ สับปะรด มะละกอ มะกรูด และมะนาว มาพัฒนาผ่านกระบวนการวิจัยกว่า 20 ปีของบริษัท เฮิร์บ อินโนเทค จำกัด จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดและป้องกันการเกิดตะกรันในระบบทำความเย็น (Cooling Tower และ Evaporative Condenser) ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ใช้สารเคมีอันตราย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี้ยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและตะไคร่ สร้างฟิล์ม Hydrophobic เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและลดความกระด้างของน้ำ อีกทั้งยังมีการออกแบบให้ใช้งานง่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์อัดก้อน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูแลระบบทำความเย็นได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ความสำเร็จของนวัตกรรมสมุนไพรไทยในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายในอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์สมุนไพรไทยในตลาดโลก โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ได้เริ่มส่งออกไปยังประเทศเกาหลีและฟิลิปปินส์ พร้อมอยู่ในระหว่างการจดสิทธิบัตรให้เป็นสมบัติของชาติไทย การเปิดตลาดนี้ถือเป็นก้าวแรกของการเจาะตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดตะกรันซึ่งมีมูลค่ากว่า 150,000 ล้านบาททั่วโลก และเติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปี จึงถือเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแข่งขันได้ในระดับสากล
นอกจากนี้เอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้งยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยในด้านอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์การจัดการน้ำและของเสียในภาคอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างคราบน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ป้องกันการจับตัวของไขมัน และผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้ยังช่วยสร้างงานและรายได้ให้กับชุมชนรำมะสัก โดยมีแรงงานกว่า 200 คนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
นวัตกรรมนี้สะท้อนถึงศักยภาพของภูมิปัญญาไทยที่สามารถต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระดับโลกได้อย่างแท้จริง สมุนไพรไทยไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็นอนาคตของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ลดสารเคมี ลดต้นทุน ลดโลกร้อน และสร้างความภาคภูมิใจในคุณค่าของทรัพยากรไทยที่ก้าวไกลสู่เวทีโลก
สมุนไพรไทยครั้งนี้ไม่ใช่แค่การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ แต่คือการพิสูจน์ว่าภูมิปัญญาไทยสามารถก้าวไกลและเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง การพัฒนานวัตกรรมที่ผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีทันสมัย ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างคุณค่าให้คนไทยทั้งประเทศ “จากครัวเรือนสู่โรงงาน และจากท้องถิ่นสู่ตลาดโลก สมุนไพรไทยกำลังกลายเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน”
สามารถอ่านข่าวต้นฉบับเพิ่มเติมได้ที่ เส้นทางเศรษฐี ออนไลน์ , มติชนออนไลน์ , ตรงจุดเกิดเหตุ, โครงข่ายตาสับปะรด ,









